สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina) คืออะไร
สาหร่ายเกลียวทองเป็นสาหร่ายหลายเซลล์สี เขียวแกมน้ำเงินที่อุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร เพียบพร้อมด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการ ย่อยสลายและดูดซึมต่างๆของร่างกายสามารถนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีผลข้างเคียงเมื่อรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ |
![]() |
เป็นที่น่าทึ่งมากว่าสาหร่ายเกลียวทอง ประกอบด้วยสารอาหารหลากหลาย ที่ทรงคุณค่ามากกว่าเนื้อสัตว์ และพืชชนิด อื่น ๆ เปรียบเสมือนโรงงานผลิตอาหารของโลกเลยทีเดียว อันได้แก่
มีโปรตีนสูงกว่าเนื้อ นม ไข่ ถึง 3 เท่า มีโปรตีนสูงถึง 60-70% โดยน้ำหนักแห้ง
มีกรดอะมิโนที่เป็นส่วนประกอบของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายครบทั้ง 18 ชนิด
อุดมด้วยวิตามิน B1 , B2 , B6 , B12,C,E และ H ซึ่ง B12 มีมากกว่าในตับถึง 250 %
เบต้า แคโรทีน มีมากกว่าแครอทถึง 20 เท่า
ธาตุเหล็ก มีมากกว่าอาหารชนิดอื่น ๆ ถึง 12 เท่า
ซีลีเนียม, สังกะสี และธาตุอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย
กรดแกมมาไลโนเลนิก ช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือดมากถึง 170 เท่าของที่มีในน้ำมันพืช
คลอโรฟิลล์ช่วยลดอาการอักเสบของบาดแผล และเสริมสมรรถภาพของตับ
มี สารให้สีน้ำเงิน ที่เรียกว่า ไฟโคไซยานิน ที่มีอยู่แต่ในสาหร่ายเกลียวทองเท่านั้น และมีคุณสมบัติที่วงการแพทย์ให้ความสนใจ เม็ดสีนี้ได้พัฒนาตัวเองมาถึง 3,600 ล้านปี มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย เป็นความหวังของผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง โรคเอดส์ และเป็นความหวังว่า จะเข้ามาแทนที่การใช้ยาปฏิชีวนะในคนได้ต่อไป
ผู้ใดที่ควรรับประทานสาหร่ายเกลียวทอง
สาหร่ายเกลียวทอง จัดว่าเป็นอาหารที่ปลอดภัย มีผู้บริโภคหลายสิบล้านคน ทุกเชื้อชาติศาสนา รับประทานเป็นอาหาร หรืออาการเสริมติดต่อกันมานานหลายศตวรรษ สาหร่ายเกลียวทองได้รับอนุญาตทางกฎหมาย ให้เป็นอาหารเสริมที่ผลิตจาก ธรรมชาติ(Natural Food Supplement) จากประเทศที่มี เทคโนโลยีสูงๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น มานานกว่า 20 ปี และมีการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ออกมาเรื่อย ๆ สาหร่ายเกลียวทอง เป็นอาหารธรรมชาติชนิดเดียวที่มีคุณค่ามากมาย ที่ร่างกายต้องการจึงเหมาะ สำหรับทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
อาการผิดปกติของร่างกายที่ทำให้เกิดโรคมีหลายอย่าง ซึ่งกว่า 90% ของการผิดปกตินั้น เกิดจากการรับประทานอาหารที่บกพร่อง ไม่เพียงพอ หรือไม่ถูกส่วน อย่างเป็นประจำ องค์การ สหประชาชาติได้เสนอแนะว่า " สาหร่ายเกลียวทอง คืออาหารอุดมคติที่ดีที่สุดของของมนุษยชาติ" ดังนั้นจึงเป็นแหล่งอาหารที่เหมาะสำหรับทุกคน หรือ บุคคลดังนี้
1. ผู้สูงอายุ 2. ผู้ป่วยเบาหวาน 3. นักกีฬา 4. ผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ 5. ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง 6. ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก 7. ผู้ที่มีปัญหาโรคกระเพาะ 8. เด็ก ในวัยเจริญเติบโต 9. สตรี ตั้งครรภ์ หลังคลอด หรือให้นมบุตร 10.ผู้ที่มีปัญหาโลหิตจาง 11.ผู้เป็นหวัดบ่อย ๆ 12.ผู้พักฟื้นหลังผ่าตัด 13.ท่านที่นอนดึก พักผ่อนน้อย 14.ผู้ที่ไม่มีเวลารับประทานอาหารเช้า |
![]() |
คุณประโยชน์ของสาหร่ายเกลียวทอง ของสาหร่ายได้มอบอะไร? ให้แก่เราบ้าง ? สารใดที่ได้รับไปในร่างกาย คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้เราได้ประโยชน์เช่นไร?
|
![]() |
สาหร่ายเกลียวทอง คือ โปรตีน ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนหลายชนิดในสัดส่วนที่เหมาะสม ในสาหร่ายเกลียวทองนั้น มีคุณค่าทางอาหารเหนือกว่าอาหารชนิดอื่น คือมีปริมาณโปรตีนถึงกว่า 65% ของน้ำหนักแห้ง ซึ่ง สูงกว่าปริมาณโปรตีนที่มีในเนื้อสัตว์หรือในไข่ถึง 3/2 เท่า ถือว่า สาหร่ายเกลียวทอง เป็นอาหารพิเศษที่ประกอบด้วยเนื้อโปรตีนแท้ๆ นอกจากนี้ยังประกอบด้วย คลอโรฟิลล์ และ ไฟโคไซยานิน จำนวนมาก มีโปรวิตามิน ซึ่งเป็นสารที่เปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ ซึ่งเป็น คุณสมบัติเฉพาะของสาหร่ายเกลียวทอง จะเห็นว่าสาหร่ายเกลียวทอง มีสีเขียวแกมน้ำเงิน และรวมไปถึงทั้งกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการ เราลองมาดูตารางเปรียบเทียบ สาหร่ายเกลียวทอง (แห้ง) เปรียบเทียบปริมาณ โปรตีน
ปริมาณ โปรตีน
สาหร่ายเกลียวทอง
60-71 %
เนื้อวัว
18 - 20 %
ไข่
10 - 25 %
ข้าวสาลี
6 - 10 %
ข้าวเจ้า
7 %
ถั่วเหลือง
33 - 35 %
ปลาทู ปลาอินทรี
20 %
นอกจากนั้น สาหร่ายเกลียวทอง ยังประกอบไปด้วย กรดอะมิโน ที่จำเป็นต่อร่างกาย ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ซึ่งในสาหร่ายเกลียวทอง มี กรดอะมิโน ทั้ง 18 ชนิด ที่ร่างกายต้องการดังนี้คือ
1. ไอโซลิวซีน จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต และพัฒนาการเรียนรู้ (IQ)
2. ลิวซีน กระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มกำลังให้กล้ามเนื้อ ช่วยให้เซลล์ประสาทแข็งแรงขึ้น 3. ไลซีน ทำให้ระบบเส้นเลือดแดงแข็งแรง ควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ 4. เมไทโอ นีน บำรุงรักษาตับ ต้านความเครียด ทำให้ประสาทผ่อนคลาย 5. เฟนนิลอะลา นีน ใช้สร้างไทรอกซิน กระตุ้นกอัตราการย่อย และสลายอาหารเพื่อเป็นพลังงาน 6. ทรี โอนีน ทำให้ลำไส้ทำงานดีขึ้นเพิ่มการดูดซึม 7. แวลี ช่วยกระตุ้นความจำ 8. อะ ลานีน ทำให้ผนังเซลล์แข็งแรง 9. แอสพาร์ติก ช่วยเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาล 10. อาร์จินีน เป็นส่วนประกอบของน้ำเชื้อเพศชาย และช่วยในการกำจัดสารพิษ 11. ทริพ โตเฟน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินบี จิตใจเยือกเย็นสงบ 12. กลูตา มิก นำกลูโคสเข้าสู่เซลล์สมอง ช่วยลดพิษอัลกอฮอล์ และช่วยทำให้มีสติ 13. อีส ติตีน ช่วยให้การส่งผ่านความรู้สึกของระบบประสาทดีขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องหู 14. ซี ลีน ช่วยในการสร้างเยื่อหุ้มรอบเส้นประสาท เพื่อป้องกันอันตรายในเส้นประสาท 15. ซีสทีน บำรุงตับอ่อน ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด 16. โปรตีน เป็นสารต้นตอของกลูตามิกแอซิด 17. กลัยซีน เพิ่มพลังงานและการใช้ออกซิเจนของเซลล์ 18. ไทโรซีน ชะลอความแก่ของเซลล์ |
|
|
|
|